รู้จักเรา
FolkCharm เป็นธุรกิจเพื่อสังคมที่ร่วมมือกับเกษตรกรผู้ปลูกฝ้ายธรรมชาติ ชุมชนช่างฝีมือ และกลุ่มสตรีท้องถิ่น เพื่อรังสรรค์เสื้อผ้าและผลิตภัณฑ์ที่ผสมผสานวิถีชีวิตร่วมสมัยกับภูมิปัญญาดั้งเดิมอย่างลงตัว ผลิตภัณฑ์ของเรามีความโดดเด่นด้วยเส้นด้ายเข็นมือ กระบวนการทอมือ และเทคนิคการย้อมสีธรรมชาติที่เป็นเอกลักษณ์ในท้องถิ่น ฝ้ายที่ใช้เป็นฝ้ายอินทรีย์และปราศจากสารเคมี 100% ที่หาได้ในประเทศ ซึ่งมีคุณสมบัติอ่อนโยนต่อผิวและให้ความสบายอย่างเป็นธรรมชาติ รายได้ 50% จากการขายของเราถูกส่งกลับไปยังผู้ผลิตโดยตรง นอกจากนี้ เรายังนำเศษผ้ามารีไซเคิลเพื่อสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ และบรรจุภัณฑ์ของเราถึง 90% ผลิตจากวัสดุรีไซเคิลหรือย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ
จดทะเบียนเป็นบริษัทจำกัดในเดือนกุมภาพันธ์ 2559 ปัจจุบันเราทำงานร่วมกับผู้หญิงที่ทำงานที่บ้านประมาณ 40 คน ซึ่งรวมถึงเกษตรกรผู้ปลูกฝ้าย ผู้ปั่นเส้นด้าย และช่างทอในจังหวัดเลย รวมถึงช่างตัดเย็บ และช่างฝีมือที่ทำงานจากที่บ้านในเขตบางกะปิ กรุงเทพมหานคร จากเดิมที่มีเพียงช่างทอ 5 คน และช่างตัดเย็บ 2 คนในปี 2557 ร่วมกับผู้หญิงที่มีแรงบันดาลใจเหล่านี้ เราได้สร้างสรรค์ผลงานที่มีเอกลักษณ์ ประณีตจากวัสดุออร์แกนิกและธรรมชาติ ผ่านผลิตภัณฑ์ของเรา เรามีความหวังที่จะเพิ่มการตระหนักรู้เกี่ยวกับงานหัตถกรรมดั้งเดิม แฟชั่นที่ประณีต Slow Fashionและยั่งยืน การขยายกลุ่มของผู้บริโภคที่ใส่ใจ และการชื่นชมในงานฝีมือดั้งเดิม
Folkcharm ก่อตั้งโดยภัสสร์วี ตาปสนันทน์ โคะดากะ ผู้ปฏิบัติงานด้านการพัฒนามากว่าเจ็ดปี โดยมีความหลงใหลในเศรษฐกิจเชิงสร้างสรรค์และการส่งเสริมงานหัตถกรรมดั้งเดิม
ปรัชญาการทำงาน
จริยธรรม • การเคารพในงานฝีมือ: ผลิตภัณฑ์ของเราถูกสร้างสรรค์โดยชุมชนในชนบทที่เราทำงานร่วมกับพวกเขาภายใต้โครงสร้างต้นทุนที่โปร่งใสและยุติธรรม เป็นการแลกเปลี่ยนที่ช่างฝีมือของเราได้รับค่าตอบแทนจากทักษะและเทคนิคของพวกเขา แทนที่จะตกลงรับค่าตอบแทนจาก ‘จำนวนที่สามารถขายได้’ ซึ่งมักนำไปสู่การขาดทุน
ค่านิยมหลักสามประการของงานของเราคือ:
- ความยุติธรรม: การได้รับผลตอบแทนทางการเงินที่ยุติธรรมสำหรับการดำรงชีวิต, ยุติธรรมต่อสิ่งแวดล้อม และยุติธรรมต่อสุขภาพของพวกเขา
- ผลประโยชน์ร่วมกัน: การทำให้ทุกคนเข้าใจรูปแบบธุรกิจของเรา ว่าเราไม่ได้เป็นองค์กรที่ไม่แสวงหากำไร และการเน้นย้ำว่าคุณภาพผลงานของพวกเขาจะมีผลโดยตรงต่อความยั่งยืนของธุรกิจ ซึ่งสามารถนำไปสู่การมีรายได้ที่ยั่งยืนของพวกเขา
- โอกาส: การให้เงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ (ผ่านการจัดหาเครื่องมือและวัสดุในการทำงาน) สำหรับผู้ที่ขาดแคลนทุนในการเริ่มต้นธุรกิจ, การสนับสนุนด้านการพัฒนาทักษะ ฝีมือ ความสามารถและพัฒนาการออกแบบ, การเสริมสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับการเข้าถึงตลาด และการเติบโตไปด้วยกันผ่านการลองผิดลองถูก
ท้องถิ่น • การยกย่องเทคนิคการทอผ้าที่สืบทอดกันมาหลายชั่วอายุคนตลอดหลายร้อยปี, การเคารพวิถีชีวิตในชนบท, การตีความเวลา และวิถีชีวิตทางการเกษตร
ธรรมชาติ • เรามุ่งมั่นใส่ใจสิ่งแวดล้อมทั้งในพื้นที่เกษตรกรรมและสภาพแวดล้อมในเมือง โดยพยายามเลือกใช้วัสดุธรรมชาติที่ปราศจากสารเคมีให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ และการใช้วัสดุสังเคราะห์ให้น้อยที่สุด ก่อให้เกิดผลกระทบเชิงบวกต่อธรรมชาติ. ที่สำคัญที่สุด ผลิตภัณฑ์ของเราทำจากผ้าฝ้ายธรรมชาติ 100% จากท้องถิ่น ไม่เพียงแต่ให้ความนุ่มนวล ปราศจากสารเคมี แต่ยังมอบความสบายในการสวมใส่ ซักง่าย แห้งเร็ว เหมาะอย่างยิ่งสำหรับเสื้อผ้าและสิ่งของที่เราสัมผัสในชีวิตประจำวัน
แนวคิดการออกแบบ
ความเรียบง่าย :เรามุ่งเน้นการออกแบบที่ "เรียบง่าย" แต่เต็มไปด้วยฟังก์ชันการใช้งาน แนวคิดของเราคือการนำวิถีชีวิตการใช้ผลิตภัณฑ์จากฝ้ายที่สืบทอดกันมาหลายรุ่นมาเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ของเรา เพื่อสร้างผลิตภัณฑ์ที่สามารถใช้ในชีวิตประจำวัน พร้อมทั้งการหาความสมดุลระหว่างชีวิตสมัยใหม่และเทคนิคการผลิตฝ้ายและการทอผ้าตามวิถีดั้งเดิมของท้องถิ่น
คุณภาพ :การรับประกันคุณภาพในทุกกระบวนการเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรกของเรา ซึ่งหมายความว่าเราจะใส่ใจในทุกรายละเอียด ตั้งแต่การปลูกฝ้ายธรรมชาติ การแยกฝ้าย การทอ การตัดเย็บ และการตกแต่ง เรายังใช้ผ้าฝ้ายมุสลินคุณภาพสูงและผ้าฝ้ายธรรมชาติ 100% ที่ไม่ผ่านการฟอกขาว, กระดุมไม้, และชิ้นส่วนโลหะคุณภาพระดับพรีเมียมในผลิตภัณฑ์ทุกชิ้น ทั้งเสื้อผ้า กระเป๋า และอุปกรณ์เสริมต่าง ๆ ของเรา
“การสร้างขยะน้อยที่สุด!” เรามั่นใจว่าผ้าชิ้นเล็กๆ ที่เหลือจากการตัดเย็บจะถูกนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์ เราจึงนำเทคนิคงานหัตถกรรมสมัยใหม่ เช่น การเย็บปัก, การทำแพตช์เวิร์ก, และการเย็บมือ มาใช้ในการสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ สำหรับใช้ในชีวิตประจำวัน
การใช้ทรัพยากรหมุนเวียน
ตั้งแต่เริ่มต้น การใช้ทรัพยากรหมุนเวียนเป็นหัวใจสำคัญในการทำงานของเรา ตั้งแต่การเกษตร การผลิต ไปจนถึงการออกแบบ และเมื่อเราเติบโตขึ้นการใช้ทรัพยากรก็มากขึ้น จึงทำให้เกิดขยะจำนวนมากตามมา ซึ่งชิ้นส่วนที่เหลือจากการตัดเย็บได้ถูกนำมาออกแบบตัดเย็บเป็นกระเป๋าและผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ แต่ก็ยังคงหลงเหลือเศษผ้าชิ้นเล็ก ๆ อยู่ ดังนั้นในช่วงปลายปี 2022 เราจึงเริ่มทดลองร่วมกับ SC GRAND ในการหาความเป็นไปได้ในการนำเศษผ้าที่เหลือมาปั่นเป็นเส้นด้ายอีกครั้ง และในตอนนี้เศษผ้ากว่า 200 กิโลกรัมที่ควรกลายเป็นขยะก็ได้ถูกแปรสภาพเป็นเสื้อผ้าตัวใหม่ของเรา! ซึ่งเรามีผลิตภัณฑ์ที่เป็น 'Close-loop’ ซึ่งมีเนื้อผ้าที่บางเบาและใส่สบาย
Folkcharm Studio
สตูดิโอ Folkcharm ในกรุงเทพฯ เป็นพื้นที่สร้างสรรค์และจัดแสดงผลงานของเรา การออกแบบได้รับแรงบันดาลใจจากสถาปัตยกรรมของบ้านชนบทที่เรียบง่าย กระท่อมไม้ เฟอร์นิเจอร์ และชั้นวางทำจากไม้และวัสดุก่อสร้างที่นำมาใช้ซ้ำ นอกจากนี้เรายังจัดเวิร์กช็อปการย้อมสีธรรมชาติและกิจกรรมต่าง ๆ ที่นี่อีกด้วย สตูดิโอของเราตั้งอยู่ที่หมู่บ้านสวนสนซอย 10 ถนนรามคำแหง หากคุณอยู่ในกรุงเทพฯ และต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับเส้นทางการทำผ้าฝ้ายทอมือของเรา สามารถแวะเข้ามาเยี่ยมชมได้
เปิดทำการวันจันทร์ถึงศุกร์ เวลา 10.30 - 17.00 น. (ยกเว้นวันหยุด) กรุณาอีเมลมาที่ hello@folkcharm.com เพื่อนัดหมายวันและเวลาล่วงหน้า เนื่องจากบางครั้งเรามีกิจกรรมนอกสถานที่
สำหรับวันเสาร์-อาทิตย์ สามารถนัดหมายล่วงหน้าได้
Click here to our location.
Cotton Journey
ผลิตภัณฑ์เสื้อผ้าและไลฟ์สไตล์ของ Folkcharm ไม่เพียงแค่ดีและยุติธรรมต่อเกษตรกร ช่างทอ ผู้ผลิต และสิ่งแวดล้อม แต่ที่สำคัญที่สุดคือดีต่อผู้ใช้ ผลิตภัณฑ์ของเรามีคุณความโดดเด่นคือ เส้นด้ายเข็นมือที่ทำจากฝ้ายธรรมชาติ 100% ปราศจากสารเคมี, การทอผ้าแบบดั้งเดิมด้วยเครื่องทอมือ และการตัดเย็บที่ประณีตเพื่อความอ่อนโยนต่อผิวหนังและความสบายในการสวมใส่
เส้นด้ายของเราทำจากฝ้ายพันธุ์ท้องถิ่น ธรรมชาติ 100% ปราศจากสารเคมี ขณะเดียวกันเรายังคงใช้ภูมิปัญญาดั้งเดิมในการผลิตเส้นด้ายด้วยการเข็นมือ และการทอด้วยมือ เราใช้เส้นด้ายจาก Grennet ที่ได้รับการรับรองเกษตรอินทรีย์และการค้าสมาคม มาเป็นเส้นทแยงเพื่อเสริมความแข็งแรงให้กับเนื้อผ้า ส่วนเส้นพุ่งใช้เส้นด้ายที่ทำจากฝ้ายธรรมชาติที่ปลูกในท้องถิ่นและทำด้วยมือ ซึ่งให้เนื้อสัมผัสที่เป็นเอกลักษณ์และมีความนุ่มนวล. สำหรับการสร้างลวดลาย เราใช้สีจากพืชในท้องถิ่น เช่น สีครามจากใบครามและเบือก, เมล็ดมะเกลือ, หมาก, คำแสด, เปลือกไม้ และใบไม้ของต้นไม้ต่างๆ
ที่กรุงเทพฯ เราส่งเสริมช่างตัดเย็บ และช่างฝีมือจากบ้านที่มีทักษะ ความชำนาญ และความสนใจที่หลากหลาย เพื่อให้ได้ชิ้นงานที่ตรงตามมาตรฐานของ Folkcharm โดยการให้รายได้ที่คุ้มค่า การส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ และความยืดหยุ่นในการทำงาน ผลิตภัณฑ์ของเราเป็นการออกแบบร่วมกันกับทีมงานและเป็นกระบวนการปรึกษา ปรับปรุง พัฒนาร่วมกันจนกว่าจะได้การออกแบบและวิธีการที่ทั้งเราทั้งผู้ผลิตพึงพอใจ
ฝ้ายธรรมชาติ ปลูกในท้องถิ่น
เติบโตโดยน้ำฝน 100 %
ใช้สีย้อมธรรมชาติจากพืชท้องถิ่น
ปราศจากสารเคมี
ผ่านกระบวนการทำมือ
และความประณีตจากฝีมือชาวบ้าน
ช่างฝีมือของเรา
ตั้งแต่เริ่มต้นเราเป็นเพียงโครงการเล็ก ๆ ที่มุ่งมั่นในการสร้างความร่วมมือกับผู้หญิงที่ทำงานจากที่บ้านอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นในพื้นที่ชนบทหรือในเมืองของประเทศไทย โดยเริ่มจากการทำงานกับช่างทอผ้า 4 คนในจังหวัดเลย และช่างตัดเสื้อ 2 คนในกรุงเทพฯ ปัจจุบันเราได้ขยายการทำงานไปยังผู้หญิงเกือบ 50 คนในสองจังหวัดนี้ โดย Folkcharm ทำงานร่วมกับช่างฝีมือท้องถิ่นในฐานะพันธมิตรในการร่วมกันสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่สวยงาม ภายใต้จริยธรรมการทำงานที่โปร่งใส
ในกรุงเทพฯ เราได้ร่วมงานกับช่างตัดเสื้อทั้งหมด 5 คน รับผิดชอบในการผลิตเสื้อผ้าของเรา และร่วมมือกับอาจารย์ปัน จากศูนย์ฝึกอาชีพบางกะปิ โดยทำงานร่วมกับนักเรียนที่ดีที่สุด 6 คนของเธอในการออกแบบกระเป๋า และเครื่องประดับจากการอัพไซเคิลเศษผ้าที่เกิดจากตัดเสื้อของเรา
กลุ่มทอผ้าฝ้ายธรรมชาติ ลำน้ำฮวย
เริ่มต้นจากช่างทอผ้า 4 คนในหมู่บ้านกกบก "กลุ่มทอผ้าลำน้ำฮวย" ปัจจุบันได้ขยายไปยังชุมชนทอผ้ารอบ ๆ หมู่บ้านนาหนองบง, น้ำจันทร์ และแก่งหิน รวมถึงช่างทอผ้ากว่า 30 คน
หมู่บ้านกกบกมีประวัติที่ยาวนานในการปลูกฝ้ายและทอผ้าด้วยมือจากฝ้ายธรรมชาติ โดยได้รับการสนับสนุนจากมูลนิธิเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติและการพัฒนาการเกษตร จังหวัดเลย ในการก่อตั้งหมู่บ้านทอผ้ากกบกเมื่อประมาณ 10 ปีที่แล้ว ซึ่งกลุ่มนี้ได้ขยายจนมีช่างทอผ้ามากกว่า 20 คน ด้วยการพัฒนาและการตั้งมาตรฐานที่เข้มงวด ทำให้กลุ่มทอผ้าลำน้ำฮวยสามารถรักษามาตรฐานของคุณภาพการทอได้อย่างต่อเนื่อง
หมู่บ้านกกบก
หมู่บ้านนาหนองบง
หมู่บ้านน้ำจันทร์
วิสาหกิจชุมชนขุนเลย
วิสาหกิจชุมชนขุนเลย ตั้งอยู่ในอำเภอภูหลวง จังหวัดเลย ซึ่งพัฒนามาจากกลุ่มออมทรัพย์ของหมู่บ้าน และขยายงานไปสู่การผลิตสินค้าเกษตรแปรรูปต่าง ๆ เช่น น้ำผลไม้จากมะขามเปียก กล้วยตาก และสมุนไพรตากแห้ง ในปี 2016 สมาชิกกลุ่มเริ่มทำการปลูกฝ้ายออร์แกนิค เมื่อฝ้ายเริ่มให้ผลผลิตในปี 2017 สมาชิกกลุ่มก็เริ่มการเข็นฝ้ายด้วยมือเพื่อเป็นวัสดุให้กับช่างทอผ้าใหม่ ๆ ที่เริ่มกลับมาทอผ้าหลังจากที่ห่างหายไปหลายสิบปี รวมถึงกลุ่มทอผ้าพันธมิตรของเราในอำเภอวังสะพุง เนื่องจากการปลูกฝ้ายและการเข็นฝ้ายด้วยมือได้หายไปกว่า 10 ปี ซึ่งคนรุ่นหลานของชุมชนแทบจะไม่เคยเห็นเครื่องมือเข็นฝ้ายมาก่อน และบางคนไม่เคยเห็นดอกฝ้ายด้วยซ้ำ การเข็นฝ้ายด้วยมือนี้กลายเป็นกิจกรรมที่สร้างรายได้เสริมสำหรับคุณยายที่ไม่สามารถทำงานหนักได้
ช่างตัดเย็บ และช่างฝีมือในกรุงเทพฯ
การตัดเสื้อแบบสั่งทำไม่เป็นที่นิยมเหมือนเมื่อยี่สิบปีที่แล้ว เพราะถูกแทนที่ด้วยการผลิตจำนวนมากและแฟชั่นที่ไหลไปตามกระแส ซึ่งทำให้เราหาช่างเย็บผ้าที่มีทักษะสูงได้ยากขึ้น แล้วในตอนนี้เราได้ร่วมงานกับช่างตัดเย็บท้องถิ่นที่ผู้ก่อตั้งของเรารู้จักพวกเขามาตั้งแต่สมัยเด็ก เพื่อสร้างเสื้อผ้าที่มีคุณภาพสูงแบบคลาสสิก และผ้าที่เหลือจากการตัดเสื้อจะถูกนำไปใช้โดยช่างฝีมือที่ผ่านการฝึกอบรมจากศูนย์ฝึกอาชีพเพื่อสร้างสรรค์เป็นงานฝีมือที่มีคุณภาพ
Our Shop
สามารถเยี่ยมชมผลงานและเลือกซื้อสินค้าของเราผ่านทางเว็บไซต์ของเราได้ที่นี่ คลิกที่นี่
Our workshop
เรียนรู้และสร้างสรรค์ไปพร้อมกันที่ Folkcharm
หากสนใจเข้าชมสตูดิโอและร่วมกิจกรรมเวิร์คช็อปที่สตูดิโอ Folkcharm เพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับแนวทางการทำธุรกิจของเรา การทอผ้าและการสีจากธรรมชาติ สามารถติดต่อเข้ามาได้ผ่านช่องทางติดต่อ เรามีเวิร์คช็อปที่ตอบโจทย์ทุกความสนใจ ไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ คุณจะได้เรียนรู้ทักษะใหม่ ๆ และสนุกไปกับการสร้างสรรค์
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม หรือสอบถามเกี่ยวกับการเข้าร่วมกิจกรรม คุณสามารถติดต่อเราได้ที่ hello@folkcharm.com
มาเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างสรรค์และเรียนรู้ที่ Folkcharm กันเถอะ!
Studio Visit & Craft Workshop from Nan Hua School, Singapore
9 พฤศจิกายน 2567
เราได้ต้อนรับน้อง ๆ มัธยมและคุณครูโรงเรียน Nanhua School จากสิงคโปร์กว่า 30 คน เข้าร่วมกิจกรรมเวิร์คช็อปที่สนุกสนานและเต็มไปด้วยความรู้ตลอด 3 ชั่วโมง ที่ Folkcharm Studio โดยกิจกรรมในวันนี้มุ่งเน้นการเรียนรู้เกี่ยวกับแฟชั่นรักษ์โลก การทอผ้าและการย้อมผ้าด้วยธรรมชาติ พร้อมทั้งได้สัมผัสประสบการณ์ผ้าทอธรรมชาติวิถีชุมชนจากเรา
เรียนรู้เรื่องราวของ Folkcharm
เริ่มต้นกันที่การเล่าถึงที่มาของ Folkcharm ซึ่งเป็นแบรนด์ที่มีความตั้งใจในการสร้างผ้าทอที่มีคุณค่าจากการร่วมมือกับชุมชนท้องถิ่นจังหวัดเลยของไทย เพื่อให้เด็ก ๆ ได้เข้าใจถึงกระบวนการและความสำคัญของการทำงานที่สร้างสรรค์และยั่งยืนร่วมกับชุมชนของเรา หลังจากเล่าเล่าแล้วเด็ก ๆ หลายคนก็มีคำถามซีเรียสหลายคำถาม ทั้งเรื่องแรงบันดาลใจ การตั้งราคา การทำการตลาด ความเข้าใจของผู้บริโภคในเมืองไทยเกี่ยวกับสินค้าใส่ใจสิ่งแวดล้อม การวางแผนในอนาคตของเรา และอีกมากมายที่น่าสนใจค่ะ
ทอผ้าด้วยกี่ทอผ้าจิ๋ว
หลังจากหารือกันได้เกือบชั่วโมง เด็ก ๆ ก็ได้เริ่มลองทอผ้าด้วยกี่ทอผ้าขนาดเล็ก ซึ่งเราได้พี่ ๆ จาก 141Crafts มาช่วยให้ความรู้และสอนวิธีการทอผ้าด้วยกี่จิ๋ว ทำให้น้อง ๆ ได้เรียนรู้ขั้นตอนเบื้องต้นในการทอผ้าและเข้าใจถึงความทุ่มเทที่ต้องใช้ในการสร้างสรรค์ผ้าทอแต่ละผืน ซึ่งทุกคนตั้งใจเรียนรู้และมีความสุขกับผลงานของตัวเองมาก ๆ
กิจกรรมย้อมผ้าด้วยสีธรรมชาติ
อีกหนึ่งกิจกรรมที่ทุกคนจะได้ลองทำคือการย้อมผ้าด้วยคราม ซึ่งบรรยากาศสนุกสนานและเลอะกันนิดหน่อยเพราะต้องการชุบ การซักผ้าและสามารถสร้างสรรค์ลวดลายได้ตามความชอบ โดยมีพี่แก้วของเราให้ความรู้และสาธิตวิธีการอย่างใกล้ชิด
ประสบการณ์ที่เต็มไปด้วยความสนุกและการเรียนรู้
ตลอดกิจกรรม ทุกคนให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ทั้งการฟังการบรรยายและการทำกิจกรรมต่าง ๆ ทุกคนตั้งใจและมีความสนุกในการเรียนรู้ พร้อมทั้งนำประสบการณ์ใหม่ ๆ กลับบ้านไป ไม่ว่าจะเป็นความรู้เกี่ยวกับการทอผ้า การย้อมผ้าด้วยธรรมชาติ หรือผลงานที่สร้างสรรค์ด้วยมือของตัวเอง
เดินทางไปไร่ฝ้ายกันเถอะ
This three-day short tour is suitable for a weekend getaway from the city or travelers who have little time but wishes to experience Thailand like never before.
Learn cotton-weaving from the ground up. Literally! See and try for yourself the process from cotton farm to textile as you will visit Folkcharm’s producing partner 600 kilometers from Bangkok to see and try out the entire hand-process of natural chemical-free cotton farming, weaving and botanical dyeing.
You will get to taste fresh flavors of unique local cuisines cooked from 100% locally sourced organic herbs, home raised eggs, chickens and fish (vegetarian meals available, of course), experience the local farmer life, travel on the unique-to-region locally designed motored buckboard to savour the mountain top view of Loei’s sea of mountains, spend the nights on the mountains star-gazing. During the time of our trip, temperature on Phuluang Mountain is perfectly cool at around 15~25C.
An option With the one day extension, visitors will get an exclusive opportunity to visit these two multi-skilled masters to get a more intensive understanding of local crafts:
Longer stays with villagers are also available for intensive courses of cotton hand processing, various techniques of Thai hand-weaving and techniques of natural dyes. Another local coal worth experiencing is 'Bamboo Weaving' the living local craft of Thailand’s Northeast. As women of the Northeast are taught cotton-weaving at young age, the men are taught bamboo weaving craft to make tools, homewares and every other items necessary for day to day living.
FARM TO FABRIC
· เรียนรู้กระบวนการและทดลองด้วยตัวเองในการทำผ้าฝ้ายที่ปลูกในชุมชนโดยไม่ใช้น้ำและสารเคมี ตั้งแต่การปั่นปุยฝ้ายเป็นเส้นฝ้ายและนำมาทอ ทุกๆขั้นตอนเป็นกระบวนการทำมือด้วยภูมิปัญญาดั้งเดิม ที่เป็นมิตรกับธรรมชาติ
· พูดคุยทำความรู้จักเหล่าแม่ๆช่างทอผ้าที่ปลูกและย้อมฝ้ายเอง เพื่อเข้าใจวิถีชีวิตพื้นถิ่น ลองทอผ้าบนกี่ทอผ้าหลังใหญ่ ฝึก “เข็นฝ้าย” หรือปั่นฝ้ายจากปุยฝ้ายให้เป็นเส้นด้าย เพื่อนำมาทอผ้าของตนเอง และทานอาหารพื้นถิ่นจากวัตถุดิบอินทรีย์ฝีมือแม่ๆที่หาทานที่อื่นไม่ได้แน่ๆ
· เรียนย้อมเส้นฝ้ายด้วยสีธรรมชาติจากพืชท้องถิ่น ที่ช่างย้อมฝีมือระดับครู จะมาเล่าเรื่องพืชแต่ละชนิดกับความหลากหลายทางชีวภาพให้เราฟังอย่างใกล้ชิด
FAIR FASHION
· เรียนรู้แนวคิดธุรกิจแฟชั่นเพื่อสังคม และการทำงานกับชุมชนอย่างมีส่วนร่วม จากประสบการณ์ของผู้ก่อตั้งแบรนด์ Folkcharm
· เข้าใจสายใยการผลิตเสื้อผ้าที่เอื้อกับวิถีชีวิตที่ไม่เร่งรีบ และให้ความสำคัญกับคุณภาพ, ฝีมือ, เวลา ตามสไตล์เฉพาะตัวของแม่ๆแต่ละคน
· เรียนรู้หลักการของ Fair Trade และการให้คุณค่าผ่านการตั้งราคาที่ตกลงร่วมกับชุมชนอย่างโปร่งใสและเป็นธรรม
MINDFUL LIVING
· เข้าใจสถานการณ์วิกฤติสิ่งแวดล้อมและผลกระทบ และร่วมสร้างสรรค์ทางเลือกการใช้ชีวิตและการบริโภคที่ยั่งยืนจากชุมชนสู่คนเมือง
· กินข้าวห่อใบตอง สัมผัสธรรมชาติ ฟื้นฟูกายใจ แล้วมาแลกเปลี่ยนวิธีใหม่ๆในการปรับชีวิตปัจจุบันให้ connect กับธรรมชาติมากขึ้น
· แลกเปลี่ยนเชิงลึกกับกำนันแสวง ปราชญ์ชาวบ้าน ผู้นำชุมชนด้านเกษตรกรรมธรรมชาติ และกลุ่มวิสาหกิจชุมชนขุนเลย ในการใช้ชิวิตร่วมกับธรรมชาติบนเทือกเขาภูหลวง และผลกระทบของการพัฒนาแบบไม่ยั่งยืนต่อระบบนิเวศ
· เรียนรู้จากแม่รสและเหล่าฮีโร่ผู้หญิงบ้านนาหนองบง ที่ใช้การทอผ้าเป็นเครื่องมือเพื่อต่อสู้กับอำนาจและรักษาป่าชุมชน
ช่างทอระดับครู ณ กกบก
เรียนรู้กระบวนการทอผ้าจากปุยฝ้ายสู่ผืนผ้าอย่างละเอียดจากช่างทอ Master Artisans ผู้อยู่เบื้องหลังผืนผ้าชิ้นที่สวยที่สุดของเราที่มีประสบการณ์ทอผ้าฝ้ายเข็นมือย้อมสีธรรมชาติมากว่า 40 ปี จะได้พบกับแม่เปลี่ยน ยายจ๊อก แม่อ้อม ยายโจ ยายถวิล ยายจำลอง และยายสั้น
พ่ออ๊อต ตองหว้าน
ประธานกลุ่มทอผ้าลุ่มน้ำฮวย ผู้มีประสบการณ์การบริหารกลุ่มแม่บ้านและกิจกรรมชุมชนมากว่ายี่สิบปี เป็นผู้รวมเครือข่ายแม่บ้านทอผ้าใน 3 หมู่บ้าน ที่ปัจจุบันทำงานร่วมกับโฟล์คชาร์ม
ระนอง กองแสน (แม่โรส)
ผู้นำแม่หญิงบ้านนาหนองบงที่ลุกขึ้นสู้กับเหมืองทองจนชนะคดี แม่รสจะมาเล่าประสบการณ์การต่อสู้กว่า 10 ปี กับอำนาจท้องถิ่น ความเหลื่อมล้ำ และปัญหาของระบบอุปถัมป์ ที่ทำให้ชุมชนขัดแย้งและต้องใช้ชีวิตอยู่กับสารพิษ อ่านเรื่องราวของแม่โรสต่อได้ที่ Radical Grandma Collective
แสวง ดาปะ (พ่อมิ๊นต์)
ผู้นำชุมชน เกษตรกรอินทรีย์ ประธานกลุ่มออมทรัพย์ฯ อดีตกำนัน และผู้ร่วมก่อตั้งวิสาหกิจชุมชนขุนเลย กำนันแสวงจะเล่าถึงวิถีไทเลย วิถีคนป่าที่อยู่ร่วมกับธรรมชาติ ตำนาน ความเชื่อ การเกษตรอินทรีย์ การเดินตามรอยพ่อหลวง การสร้างกลุ่มวิสาหกิจชุมชนที่มีชื่อเสียงอันดับต้นๆของจ.เลย ฟังเรื่องราวของกำนันแสวง ได้ที่นี่
ศิริญญา ทองแบบ (เจ๊ยอ)
สมาชิกกลุ่มวิสาหกิจชุมชนขุนเลย นักทดลองและผู้เชี่ยวชาญด้านสีสันพรรณไม้ในชุมชน รักการย้อมสีโดยสืบประวัติพืชให้สีไปถึงรุ่นผู้เฒ่า แม้ในหมู่บ้านไม่มีการย้อมสีธรรมชาติมานานแล้ว เจ๊ยอเป็นผู้คิดค้น “ผ้าลายน้ำเลย” ที่ปัจจุบันเลื่องชื่อระดับประเทศ
ภัสสร์วี โคะดากะ (ลูกแก้ว)
ลูกแก้ว จะมาแลกเปลี่ยนประสบการณ์ทำงานร่วมกับชุมชนในรูปแบบธุรกิจเพื่อสังคมอย่างลงลึก และชวนถกในหัวข้อปัญหาจากอุตสาหกรรมแฟชั่นต่อสังคม ธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมอย่างละเอียด
ลูกแก้วเริ่มสร้างแบรนด์โฟล์คชาร์มในปี 2014 ในรูปแบบธุรกิจเพื่อสังคม และปัจจุบันเป็นผู้ประสานงาน(ร่วม) Fashion Revolution Thailand
>>สามารถดูรีวิวและข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับทัวร์ของเราได้ที่ Folkcharm Travel <<