เดือนแห่ง Fashion Revolution หรือ การปฏิวัติแฟชั่น
22 – 28 เมษายน 2019
การเคลื่อนไหวพร้อมกับกว่า 100 ประเทศทั่วโลก เพื่อความโปร่งใสในวงการแฟชั่น ให้เกียรติผู้สร้างที่อยู่เบื้องหลัง การค้าที่เป็นธรรม สิทธิสตรี และสิ่งแวดล้อม
.
เราจึงขอใช้โอกาสนี้ แนะนำผู้สร้างงานบางส่วน ที่อยู่เบื้องหลังผืนผ้าและเสื้อผ้าของโฟล์คชาร์ม จากไร่ฝ้าย หลาเข็นฝ้าย โรงย้อมพืชพรรณ กี่ทอผ้า จนมาตัดเย็บ เพราะเราเชื่อในพลังและความอ่อนโยนของธรรมชาติ ความเชื่อมโยง ความเรียบง่ายที่ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญ ของกระบวนการและวิถี ความตั้งใจในทุกกระบวนการผลิต งามบ้าง ไม่งามบ้าง สมบูรณ์แบบบ้าง มีตำหนิบ้าง ล้วนเป็นธรรมชาติของงานที่ใช้มือทำ โฟล์คชาร์มวางตัวเป็นตัวกลาง ที่เสริมสร้างผืนผ้าให้มาเป็นชิ้นงาน เชื่อมโยง “ผู้ใช้” “ผู้สร้าง” และ “ธรรมชาติ”
ขอขอบคุณทุกคนที่ได้อุดหนุนและสนับสนุนเราตลอดมา จากใจพวกเราทุกคนค่ะ
.
ทั้งนี้ อยากชวนมากดไลค์และ Follow เพื่อติดตามกิจกรรมและร่วม Campaign การปฎิวัติแฟชั่น เพราะยังมีสาระดีๆ และกิจกรรมอีกมากมาย @fashrevthailand
https://www.facebook.com/fashrevThailand/
…………………………
ยายแต่ม ขุนเลย
มีฉายาว่า ยายแว้ด เพราะแกมีความสามารถในการพูดสะท้านแก้วหู ยายแต่มเคยใช้ชีวิตทำงานที่กรุงเทพอยู่หลายปี ก่อนจะกลับไปบ้าน เริ่มสนใจการเกษตรอินทรีย์ ก็เลยมาเข้ากลุ่มแม่บ้านขุนเลย ยายแต่มเป็นคนตรงๆ เหมือนจะขี้โวยวายแต่จริงใจและใจดี แกอยู่กับสามีและคุณพ่อที่มีอายุกว่าร้อยปี บ้านแกน่าอยู่มาก สามารถต้อนรับ Homestay ได้สบายๆ
แม่มิ้นต์ ขุนเลย
หัวหน้ากลุ่มแม่บ้านขุนเลย ที่ทำเป็นทุกอย่างจริงๆ ทำกับข้าวพื้นเมืองไทเลยอร่อยมาก ทั้งนำกลุ่มผลิตน้ำหมากเม่าพร้อมดื่มที่ผ่าน อย. แล้ว ผลิตกล้วยตากแสงอาทิตย์ สบู่สมุนไพร ปลูกฝ้ายเอง และเพิ่งจะเริ่มฝึกทอมาได้ไม่นานนี้ เป็นคนแปรรูปแบรนด์ผ้าฝ้ายขุนเลย มีร้านก๋วยเตี๋ยว ไม่รู้ว่าแกทำทุกอย่างได้ขนาดนี้ได้ยังไง
เจ๊ยอ ขุนเลย
ที่เรากล่าวขานกันว่า “เจ๊ยอในตำนาน” เพราะเจ๊ยอเป็น Born to Be จริงๆ เจ๊ยอทำอาหารพื้นบ้านอร่อยมาก เป็นทั้งช่าง Barber ชาย ช่างแต่งหน้าทำผมและให้เช่าชุดแต่งงานชุดแฟนซีประจำหมู่บ้าน เจ๊ยอไม่เคยถูกสอนทอผ้าจากแม่สมัยเด็ก มาฝึกใหม่เมื่อสองปีที่แล้ว หลังจากเราเริ่มชวนแม่ๆ ที่ภูหลวงปลูกฝ้าย เจ๊ยอรักในวิถีธรรมชาติ ความสามารถที่ไม่มีที่สิ้นสุดของเจ๊ยอมาจาก ครูพักลักจำ ช่างสังเกต ทดลอง จนได้กลายมาเป็นช่างย้อมผ้ามือหนึ่ง ไปเสาะแสวงหาวัตถุดิบในพื้นที่จากที่ไปไถ่ถามมาจากผู้เฒ่า ว่าอะไรย้อมได้บ้าง แล้วก็มาลองย้อม พอได้ก็มาสอนเพื่อนๆ เจ๊ยอยังเป็นผู้คนพบฝ้ายเข็นควบสามเส้น ลายเสือ สีสด ที่ได้ไปอยู่บนคอนายกตู่มาแล้ว หลังจากฝึกฝนเผ่านไปเพียงสองปี เจ๊ยอ สามารถย้อมสีได้หลากหลาย ติดทน คิดค้นการเข็นฝ้ายควบสามเส้น และทอผ้าได้แน่นสวยเสมอ แขกที่ได้ไปเยี่ยมเยียนทุกคนจึงเห็นตรงกันว่าเป็น #เจ๊ยอในตำนาน จริงๆ ค่ะ
ยายมิ้นต์ ขุนเลย
ยายมิ้นต์เป็นคุณแม่ของแม่มิ้นต์ที่เป็นอดีตช่างทอผ้ามือดี ที่ตอนนี้ได้เข็นฝ้ายให้แม่มิ้นต์ทอ แทบทุกครั้งที่ลูกแก้วขึ้นภูฯ ก็จะไปนอนกับแก ยายมิ้นต์เป็นคนมีอารมณ์ขัน สำหรับยาย ทุกอย่างที่ลูกแก้วทำหรือพูดเป็นสิ่งตลก แกจะหัวเราะเสียงดัง และยิ้มร่า ภาพนี้ต้องถ่ายหลายรอบเพราะแกไม่ยอมยิ้มกว้าง ให้เหตุว่า “บ่มีแข่ว” เราจึงต้องทำให้แกขำแล้วก็รีบเก็บภาพ ในภาพนี้ยายมิ้นต์กำลังนำฝ้ายที่อิ้วแล้วมาม้วนเป็นหลอดๆ เพื่อเตรียมเข็นฝ้ายปั่นเป็นเส้นพร้อมทอ
ยายอ่อน
เป็นคนใจเย็น ทำให้เวลาเพื่อนๆ มีปัญหากับกี่ แกจะเป็นมาช่วยดู แก้ไข ให้ทอได้อีกแม้ใช้เวลาเป็นวันๆ ยายอ่อน เป็นคนยิ้มง่าย ทดลองอะไรใหม่ๆตามน้อง น้องของแกคือเจ๊ยอในตำนาน เสริมช่วยกันทำให้ผ้าของทั้งสองคนงามขึ้นเรื่อยๆ
ยายนุ่ม ขุนเลย
ยายนุ่ม สมาชิกใหม่ในกลุ่ม แต่ไม่ใหม่ในประสบการณ์ทอผ้า แกเป็นมือทอผ้าขาวม้าที่งามมากมานาน และก็ได้มาเริ่มฝึกปรือวิทยายุทธ์การย้อมสีธรรมชาติจากเจ๊ยอ ตอนนี้แค่เพิ่มเติมการจับคู่สีที่สวย ยายนุ่มก็จะทอผ้าที่งามได้ไม่แพ้เพื่อนแล้ว
ทีมทอผ้าจากบ้านน้ำจันทร์ จากซ้ายไปขวา
ยายสุชาติ
เป็นหนึ่งในช่างทอมือดีที่สุดของเราเลย แกมือนิ่งมาก เข็นฝ้ายสวย เวลาทำผ้าลายก็จะปราณีต ยายสุชาติไม่ค่อยได้ออกไปไหนเพราะต้องดูแลตาสุชาติที่ติดเตียง อาจเป็นเหตุผลที่ทำให้ผ้าแกเสมอ ต่อเนื่อง ย้อมสีเบือกและมะเกลืองามมาก แกไม่ได้ทอผ้ามานาน ลูกมาซื้อกี่ให้เพื่อเริ่มทอกับเราเลย กี่แรกก็ไปกับน้ำท่วมปี 60 ไปซะก่อน เพราะต้องรีบเอาตาสุชาติขึ้นบ้าน
ยายตุ่น
เป็นตัวตั้งตัวตี ที่ช่วยประสานงานในน้ำจันทร์ ทอผ้าสวย แน่น และย้อมมะเกลือและเบือกเก่งเช่นกัน ช่วงน้ำป่าไหลหลากเมื่อปี 60 บ้านแกก็ได้ผลกระทบมากที่สุดบ้านหนึ่ง เพราะบ้านอยู่ติดห้วย เสืยผ้าไปกับน้ำหลายม้วน
ยายเสง
ยายเสงเพิ่งเริ่มกลับมาทอผ้า เข็นฝ้ายเอง และได้เริ่มสอนให้ลูกสาวเข็นฝ้ายด้วย ฝีมือยังสู้เพื่อนๆ ไม่ได้ แต่ก็งามขึ้นเรื่อยๆ ตามลำดับ
ตาเสงสานไม้ไผ่ทำกระติ๊บสวยมาก รบควันสีเงาเข้มหอม แบบที่ไม่มีขายในกรุงเทพแน่นอน
ทีม *All Star* ของเราที่กกบกซึ่งเริ่มกันมาตั้งแต่ต้น เสียดายวันถ่ายมากันไม่ครบ แต่ก็ได้สมาชิกตัวแม่ๆ ฉายภาพนี้ร่วมกัน
ขอมาเล่าถึงสมาชิกบุกเบิกใว้ก่อน ทีมใหม่จะทยอยเล่านะคะ
แม่เปลี่ยน คนแรกจากขวา
สมาชิกหนึ่งในสี่คนแรกของเรา แกเป็นคนน่ารัก ละเอียดอ่อน จึงแอบขี้น้อยใจและคิดมากเป็นที่รู้กัน แต่ด้วยความละเอียดนี่แหละที่ทำให้มีฝีมือระดับช่างศิลป์ ทำอะไรก็งามไปหมด จึงทำได้ช้า แต่ปราณีตมาก ย้อมสีก็สดสวย เพราะย้อมที่ละน้อย แต่ย้อมซ้ำหลายครั้ง และใช้เวลานาน ผลิตงานต้นแบบให้เรา ทั้งผ้าเช็ดตัว ผ้าเช็ดหน้า ย่ามสีงาม ผ้าพันคอลายปีกนก ผ้าทอลายขัดของแกก็สวย ทอแน่นละเอียด แต่น่าเสียใจช่วงนี้แกไม่ค่อยสบาย จึงทำได้แต่งานชิ้นที่เล็กลง ทำช้าลง เพราะทำไปพักไป นั่งไม่ได้นาน
ยายจ๊อก คนที่ห้าจากขวา
ยายจ๊อก นิสัยภายนอกจะคล้ายยายแต่มของขุนเลย คือตัวเล็ก แต่เสียงดัง เป็นคนตรงๆ ที่รักงานทอผ้าเป็นที่สุด ปีที่แล้วแกโดนรถชน ขาหัก กระดูกร้าว เพียงไม่ถึงเดือนก็กลับมาทอผ้าใหม่ ท่ามกลางการห้ามของลูกๆ ปีนี้ก็ล้มจักรยาน แต่ก็กลับมาทอใหม่ภายในไม่ถึงเดือนเช่นเคย แม้ช่วงที่ทอไม่ไหว แกก็จะมาประชุมกลุ่มร่วมกิจกรรมด้วย ยายจ๊อกเป็นคนกระฉับกระเฉง แต่ใจเย็นขณะทอผ้า ลายละเมียด ผ้าตึงสวยไม่ย้วย แม้ตัวแกจะเล็กนิดเดียว
ยายเจ คนแรกจากซ้าย สุดท้ายจากขวา
ยายเจเป็นสมาชิกรุ่นสองที่ชอบความท้าทาย อยากลองว่าจริงหรือที่ได้ผ้าทอกี่ละเป็นหมื่น สามียายเจเสีย แกจึงเลี้ยงดูลูกสาวเองถึงสามคน ยายเจเป็นคนมีฐานะดี ลูกๆ แกดูแลดีมาก แต่แกก็ไม่วาย ขยัน หาโน่นนี่ทำอยู่เรื่อย ปลูกฝ้ายเอง ยางก็กรีด แกเห็นว่าครามราคาดี ก็ลองปลูกครามและฝึกก่อหม้ออีกจน ทำให้โฟล์คชาร์มเราได้สีครามสวยมาตกแต่งพื้นผ้า โดยที่ไม่ต้องไปหามาจากที่อื่น
แม่โรส
หัวหน้ากลุ่มแม่บ้านนาหนองบง ที่เป็นทั้งหัวหน้าแกนนำของหมู่บ้าน ต่อสู้เรื่องเหมืองแร่ทองคำมายาวนานจนชนะ แม่โรสเป็น Fighter ตัวจริงที่ไม่กลัวแม้ปืน ชื่อแม่โรสเป็นที่รู้จักกันดีในหมู่ NGO แต่ด้วยกิจกรรมสังคมมากมาย แม่โรส จึงทอผ้าไม่ได้ต่อเนื่อง หากทอผ้าลายก็จะมีความไม่เสมอกันจนเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวไป คนที่ชอบงานมือ ก็เข้าใจ แต่ก็มีหลายคนที่เห็นเป็นตำหนิ
ยายแก้ม
ยายฟิล์ม
ยายแนน